“เพื่อน” กลับมาอีกแล้ว
มางวดนี้เว็บกระปุกก็แจกตั๋วฟรีเหมือนเคย
(งวดแรกก็ได้ตั๋วจากงานนี้ แต่ยังไม่ได้เขียนบล็อกให้เค้าเล้ย รู้สึกผิด)
ขอให้ได้ไปดูอีกรอบแล้วกันนะ อิอิ
“เพื่อน” กลับมาอีกแล้ว
มางวดนี้เว็บกระปุกก็แจกตั๋วฟรีเหมือนเคย
(งวดแรกก็ได้ตั๋วจากงานนี้ แต่ยังไม่ได้เขียนบล็อกให้เค้าเล้ย รู้สึกผิด)
ขอให้ได้ไปดูอีกรอบแล้วกันนะ อิอิ
ไปดู “กิ๊ก 2 (Gig Number Two)” มา
นี่เป็นหนังดูฟรีเรื่องที่สองที่รู้สึกอย่างยิ่งว่าเสียดายเวลา (ยังไม่นับค่าน้ำมัน … เรื่องแรกคือ “ขุนแผน”)
หนังไร้แก่นสาร
ไร้พล็อต
บทอ่อนและห่วย ไม่มีเหตุผล (ลองดูคู่สาวขายกาแฟ เป็นต้น)
ส่วนมุข
จะบอกว่า
ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก ไม่ตลก
ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด ฝืด
ภาคแรกว่าแย่แล้ว
ภาคนี้ยิ่งแย่กว่า
ดูไปก็นั่งขำและสมเพชตัวเอง
ว่าเล่นเกมเอาบัตรฟรีทำไม ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันคงออกมาทำนองนี้ (แต่ห่วยกว่าที่คิดอีก)
ถ้าอยากดูสาวๆ
ไปดน้องพีคดีกว่าครับ
(จริงๆ น้องๆ ในเรื่องคนกลางทั้งสองคนตามในโปสเตอร์ด้านบนก็น่ารักดี แต่ก็งั้นๆ ขี้เกียจไปค้นชื่อ)
ไม่มีดาวให้ -_-”
ป.ล. ขอบคุณเว็บเด็กหนัง สำหรับตั๋วฟรี (และเพื่อนเบนจี้ที่ให้แลกบัตรแถวที่ห่างๆ จากจอมา ไม่งั้นคงหงุดหงิดกว่านี้)
เพิ่งกลับจากไปดูหนังไทยคุณภาพเรื่อง “ไชยา” มา
โรง SFX Emporium รอบ 21.50 (ราคา 80 บาท) คนบางเบาเหลือเกิน
โดย “ไชยา” นี้ ได้รับเชิญให้เป็นหนังปิดในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ 2550 ที่เพิ่งผ่านมาด้วย (ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Muay Thai Chaiya)
ขี้เกียจเล่าเรื่องย่อ -_-”
เอาเป็นว่าจะเล่าแบบย่อสุดๆ
หลักๆ เป็นชีวิตของเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก 3 คน
โดยได้ฝึกมวยไทยโบราณที่เรียกว่า “มวยไชยา” กันมา
จนได้ขึ้นมาเมืองกรุงฯ เพื่อไล่ตามความฝัน
และได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเบื้องหลังวงการมวย ที่เต็มไปด้วยความสกปรก และ “เลือด”
Continue reading “ไชยา : คุณธรรมน้ำมิตร”
แสดงนำโดย Anthony Hopkins และ Ryan Gosling
(คนหลังเคยได้ยินชื่อ แต่นึกไม่ออกว่าเคยดูเรื่องไหนมาก่อนรึเปล่า)
เป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวน (Suspense) ฉลาดๆ ที่ไม่ได้ดูมานาน
แม้ว่าพอดูไปเกินครึ่งเรื่องซักเล็กน้อย จะพอเดาๆ ออกก็ตาม
แต่เปิดเรื่องด้วยการเปิดเผยตัวฆาตกรตั้งแต่แรก
แล้วยังทำให้อยากติดตามได้จนจบเนี่ย
ฝืมือจริงๆ
☆☆☆ (สามดาวเต็มสี่)
มีแต่คนบอกว่า “สนุก” “มันส์” “สุดยอด”
เลยตั้งความหวังซะเต็มที่
ก็สนุกดี
แต่สุดท้าย สรุปได้ว่า “ผิดหวัง”
หุ่นยนต์มันออกแนว ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
รู้สึกว่าแปลงร่างมั่วๆ ไม่ค่อยสัมพันธ์กับต้นแบบเท่าไหร่
เนื้อเรื่องก็หลวมๆ พอๆ กับ ID4 ยังไงอย่างงั้น
สรุปว่า กราฟิคเจ๋ง เนื้อเรื่องงั้นๆ
สองดาวแล้วกัน ☆☆
ไปดูมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนโน้น
กับรุ่นน้อง (ที่ชอบดูหนังผี)
ก็หวังไว้นิดๆ ว่าน้องๆ จะ โอ้ว อู้ว์ อ้าวส์
แต่ก็งั้นๆ
เนื้อเรื่องสุดห่วย
สมเป็นหนังของผู้กำกับ “นายอโศกกับนางสาวเพลินจิต” (หลงไปดูตามบทสัมภาษณ์ ฯลฯ แล้วก็ … “ห่วย”)
จุดที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือ …
“End Credit”
☆★ (หนึ่งดาวครึ่ง เต็มสี่)
นำแสดงโดย “ทาคุยะ คิมุระ” หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “คิมุทาขุ” หนุ่มเท่สมาชิกวง SMAP
กำกับโดย “โยจิ ยามาดะ” ผู้ที่มีผลงานเลื่องชื่ออย่างภาพยนตร์ชุด “โทร่าซัง”
นอกจากโทร่าซังแล้ว เคยได้ดูผลงานของผู้กำกับคนนี้อย่างเรื่อง “The Hidden Blade” ซึ่งก็เป็นหนังแนวซามูไรเหมือนกับเรื่อง L&H ที่ได้ไปดูมาในวันนี้
Continue reading “เกียรติยศรัก คมดาบซามูไร”
เมื่อวานถูกน้องโบว์ลากไปช่วยพาเพื่อนญี่ปุ่นไปเที่ยววัดพระแก้วกับวัดโพธิ์
(น้องโบว์ คือ สาวรัดสาด จุฬาฯ ไปแลกเปลี่ยนที่ม.โอซาก้ามา 1 ปี เจอกันครั้งแรก ณ สกีทริป ของสนทญ.)
กอปรกับการที่ต้องไปซื้อ PlayStation 2 ให้เพื่อนที่สะพานเหล็ก
ก็เลยประมาณ “ไปก็ไป” (อย่าโกรธนะน้องโบว์ ^^)
เรื่องเที่ยววัดไม่ใช่ประเด็นหลักของบล็อกอันนี้ ขอข้ามไปยังหัวเรื่องเลย
คือ เมื่อวานหมดตังค์ไปกับ DVD ที่คลองถม 3,160 บาท (DVD ลิขสิทธิ์แท้)
ประกอบด้วย ภาพยนตร์ประเภทต่างๆ ดังนี้ (ในวงเล็บคือราคา หน่วยเป็นบาท ภาพประกอบจาก DVD Asian)
เป็นเรื่องที่ “ซื้อเก็บ” (คือเก็บจริงๆ แทบไม่หยิบมาดู) ไปซะครึ่ง
โอ้ ตังค์ …
Final Fantasy VII Advent Children
เพิ่งไปดู Trailer มา
เจ๋งจริงๆ เลย
FF VII เป็นแผ่นแท้แผ่นแรก (และเกือบจะเป็นแผ่นเดียว) ของ PlayStation
ที่ลงทุนซื้อ ด้วยราคาประมาณสองพันกว่าบาท
สั่งจากร้าน Sony ที่เดอะมอลล์บางกะปิ หรืออะไรประมาณนั้น
ซื้อมาแล้ว เซ็งนิดๆ ที่คู่มือ ดันเป็นขาวดำ
ถ้าซื้อของแท้ Version ญี่ปุ่น เป็นสี งดงามกว่ากันเยอะ
เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เล่นจนจบ
เล่นไปได้แค่ 7 ชั่วโมง (ถึงตึกชินระเอง)
ก็เริ่มขี้เกียจเล่น นั่งดูเพื่อนเล่นมั่ง
ได้ดูฉากจบแบบไม่ได้ตั้งใจดูเหมือนกัน
จริงๆ ที่เล่นไม่จบ เพราะอารมณ์มันต่างจากภาคเก่าๆ เกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้
เพราะภาคที่ชอบที่สุดคือภาค 2 (ถึงกับซื้อ WonderSwan Color มาเพื่อเล่น FF II แต่ก็ยังเล่นไม่ถึงไหนเลย)
แล้วก็อารมณ์แบบต่อไม่ค่อยติดด้วย เพราะภาค 4, 5, 6 ก็ไม่ได้เล่น
(แต่เอ๊ะ ภาค 6 ก็ได้ Feel คล้ายๆ ภาค 7 เหมือนกันแฮะ)
ที่สำคัญ ดันไปติดกับ Winning Eleven (และ Gold Storm — Winning ภาคภาษาอังกฤษ) ไปซะก่อน
ว่างๆ ต้องไปหาอ่านเนื้อเรื่องก่อนซื้อ DVD FF7AC ซะแล้ว
จะได้เอา FF7 กลับมาเล่นฟื้นความหลังมั้ยน้า…
แต่ OST ของภาค 7 จำได้ว่าซื้อมา
แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ฟัง (ฟังภาค 6 มากกว่า 3 แผ่น CD ฟังจนแทบจำได้)